ภาษีนำเข้า-ส่งออก คำนวณยังไง? วิธีลดค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้

ภาษีนำเข้า-ส่งออก คำนวณยังไง? วิธีลดค่าใช้จ่ายที่ต้องรู้

การนำเข้าและส่งออกสินค้าเป็นกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับการเสียภาษี ซึ่งอาจส่งผลต่อต้นทุนของธุรกิจ หากเข้าใจวิธีการคำนวณภาษีและวิธีลดค่าใช้จ่าย จะช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ เราจะมาดูวิธีคำนวณภาษีนำเข้า-ส่งออก และแนวทางลดค่าใช้จ่ายที่ควรรู้

วิธีคำนวณภาษีนำเข้า

ภาษีนำเข้าคิดจากราคาศุลกากร (CIF) ซึ่งเป็นมูลค่าสินค้ารวมค่าประกันภัยและค่าขนส่ง โดยมีโครงสร้างภาษีที่สำคัญ ดังนี้:

1. ภาษีศุลกากร (Import Duty)
   • คิดจากอัตราภาษีของแต่ละประเภทสินค้า (HS Code)
   • สูตรคำนวณ: (CIF × อัตราภาษีศุลกากร)
2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT – 7%)
   • คิดจากมูลค่าสินค้ารวมภาษีศุลกากร
   • สูตรคำนวณ: [(CIF + ภาษีศุลกากร) × 7%]
3. ภาษีสรรพสามิต (หากมี)
   • สินค้าบางประเภทต้องเสียภาษีสรรพสามิต เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ และรถยนต์

วิธีคำนวณภาษีส่งออก

ในประเทศไทย สินค้าส่วนใหญ่ได้รับการยกเว้นภาษีส่งออก แต่สำหรับสินค้าที่ต้องเสียภาษี จะคำนวณจากมูลค่าศุลกากร (FOB) หรือปริมาณสินค้า โดยอัตราภาษีขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า เช่น

• ข้าวเปลือก: คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของราคา FOB
• ไม้แปรรูป: คิดเป็นอัตราต่อหน่วย

วิธีลดค่าใช้จ่ายภาษีนำเข้า-ส่งออก

1. ตรวจสอบพิกัดศุลกากร (HS Code) ให้ถูกต้อง
   • ใช้รหัส HS Code ที่เหมาะสมเพื่อลดอัตราภาษีหรือขอสิทธิพิเศษ
2. ใช้สิทธิพิเศษทางการค้า (FTA & GSP)
   • ตรวจสอบว่าสินค้าของคุณสามารถใช้สิทธิพิเศษทางภาษีจากข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) หรือโครงการ GSP (Generalized System of Preferences) ได้หรือไม่
3. ใช้เขตปลอดภาษี (Free Zone) หรือคลังสินค้าทัณฑ์บน
   • การนำสินค้าไปเก็บในเขตปลอดภาษีสามารถเลื่อนการเสียภาษีออกไป หรืออาจได้รับยกเว้นภาษีบางประเภท
4. วางแผนการจัดส่งเพื่อลดต้นทุน CIF
   • ต่อรองค่าขนส่งและค่าประกันภัยให้ต่ำลง เพื่อลดมูลค่า CIF ซึ่งส่งผลให้ภาษีนำเข้าลดลง
5. ใช้ตัวแทนชิปปิ้งที่มีประสบการณ์
   • ตัวแทนชิปปิ้งที่มีความรู้สามารถช่วยแนะนำวิธีลดภาษีอย่างถูกต้องและประหยัดค่าใช้จ่ายได้